เซบีย่า กลายเป็นเต้ยผูกขาดคว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก หลังซิวแชมป์สมัยที่ 7 ด้วยการชนะจุดโทษโรม่า 4-1 หลังเสมอ 1-1 ใน 90 นาที และ 120 หาผู้ชนะไม่ได้
ฟุตบอล ยูโรป้า ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่ ปุสกัส อารีน่า ประเทศฮังการี เซบีย่า จาก ลา ลีกา แชมป์รายการนี้ 6 สมัย พบ โรม่า จากเซเรีย อา อิตาลี
โฆเซ่ หลุยส์ เมนดีลีบาร์ กุนซือเซบีย่า รอบรองผ่าน ยูเวนตุส มาได้ เกมนี้ไม่มี มาร์กอส อากูนญ่า ที่ติดแบน เป็น อเล็กซ์ เตลลิส ที่ลงยืนแบ๊กซ้ายแทน โดยมี ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ ยืนเป็นหน้าเป้า
ขณะที่โรม่า ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ ผ่าน เลเวอร์คูเซ่น มาได้ในรอบตัดเชือก เกมนี้ไม่มี ริค คาร์สดอร์ป กับ มาราช คุมบุลล่า ที่เจ็บ แต่ได้ เปาโล ดีบาล่า หายเจ็บกลับมาเป็นตัวจริง
นาทีที่ 12 โรม่า เกือบขึ้นนำแต่ ยาสซีน โบโน มาเซฟลูกยิงของ เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า เอาไว้ได้
นาทีที่ 35 โรม่า เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 เป็นจังหวะที่ เซบีย่า เสียบอลกลางสนาม จานลูก้า มันชินี่ แทงบอลให้ เปาโล ดีบาล่า ยิงสวนตัว โบโน่ เข้าไป
นาทีที่ 45+6 เซบีย่า เกือบได้ประตูตีเสมอ แต่ทว่า อีวาน ราคิติช ยิงไปชนเสา จบครึ่งแรก โรม่า นำ 1-0
กลับมาครึ่งหลังนาทีที่ 55 เซบีย่า กลับสู่เกมด้วยการตีเสมอ 1-1 โดยลูกนี้ จานลูก้า มันชินี่ สกัดเข้าประตูตัวเอง จากจังหวะที่ เฆซุส นาบาส เปิดกดดันเข้ามา
นาทีที่ 76 เซบีย่า พลาดได้จุดโทษ ในจังหวะที่ โรเจอร์ อีบันเญซ ไปสะกิดขา ลูกัส โอคัมโปส ล้มลงในเขตโทษ แม้ผู้ตัดสิน จะเป่าจุดโทษ ในตอนแรกแต่ VAR มาเห็นต่าง
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้นจบ 90 นาทีเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษ ออกไป
ในช่วงต่อเวลา 120 นาที ทั้งสองทีมแม้จะมีลุ้นแต่ก็ยิงไม่ตรงเป้า ทำให้ต้องฎีกา ด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฎว่า เซบีย่า แม่นกว่า ชนะไปด้วยสกอร์ 4-1 คว้าแชมป์ ยูโรป้า ลีก เป็นสมัยที่ 7 จากการเข้าชิงทั้งหมด 7 ครั้งต่อจากปี 2006, 2007, 2014, 2015, 2016, 2020 และเป็นทีมที่เป็นแชมป์รายการนี้มากที่สุุดด้วยเช่นกัน
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เซบีย่า (4-2-3-1) : ยาสซีน โบโน – เฆซุส นาบาส, โลอิก บาเด้, เนมานย่า กูเดล, อเล็กซ์ เตลลิส – แฟร์นานโด เรเจส, อีวาน ราคิติช – ลูกัส โอกัมโปส, โอลีเบร์ ตอร์เรส, ไบรอัน คิล – ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่
โรม่า (3-4-2-1) : รุย ปาตริซิโอ – จานลูก้า มันชินี่, คริส สมอลลิ่ง, โรเจอร์ อีบันเญซ – เซกี้ เซลิค, ไบรอัน คริสตานเต้, เนมันย่า มาติช, เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า – เปาโล ดีบาล่า, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่ – แทมมี่ อบราฮัม
